หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูล รุ่น มหาพุทธานุภาพ (สองราช) เนื้อทองแดง ห่วงเชื่อมเงิน พิมพ์น้ำเต้า
เหรียญหลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูล จ.ชัยนาท
เนื้อ ทองแดงห่วงเชื่อมเงิน พิมพ์ น้ำเต้า ตอกโค้ดรันเลข
วัดธรรมามูลวรวิหาร สร้างอยู่บนไหล่เขา ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตเมืองชัยนาท ในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อธรรมจักร” ...ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เป็นศิลปะประยุกต์สมัยเชียงแสนตอนปลายถึงสุโขทัยตอนต้นผสมกับสมัยอยุธยา
พุทธลักษณะ...เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประทับยืนบนฐานรูปดอกบัว พระหัตถ์ขวาทรงยกขึ้นเสมอพระอุระหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ
“หลวงพ่อธรรมจักร” สูง 4.5 เมตร กลางฝ่าพระหัตถ์มีรอย “ธรรมจักร” ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว คาดกันว่าเป็นความคิดของช่างยุคนั้นที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ให้มีเครื่อง หมายแห่ง “มหาปุริสลักษณะ” หรือลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการตามคติอินเดีย เช่น ในฝ่าเท้ามีจักร...มีลายตาข่ายในฝ่ามือฝ่าเท้า ข้อเท้า เหมือนสังข์ที่ตั้งขึ้น คางเหมือนคางราชสีห์
ตำนานเล่าลือสืบต่อๆกันมา...มีผู้พบพระพุทธรูปลอยน้ำตามแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกัน 3 องค์ นั่นก็คือ หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงพ่อวัดบ้านแหลม วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม และหลวงพ่อธรรมจักร วัด ธรรมามูลวรวิหาร จังหวัดชัยนาท
บ้างก็ว่ายังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง ลอยตามน้ำมาด้วยกัน แต่องค์ “หลวงพ่อธรรมจักร” นั้นเมื่อลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดธรรมามูลฯ ก็ปรากฏสิ่งอัศจรรย์ใจ กลับลอยวนเวียนอยู่ กระทั่งพระภิกษุ ชาวบ้านมาเห็น จึงได้ทำพิธีอัญเชิญขึ้นมา
กระบวนการขั้นตอนใช้เชือกพร้อมสายสิญจน์ผูกกับพระพุทธรูป แต่ก็ต้องจนปัญญาด้วยทำอย่างไรก็ไม่สามารถดึงขึ้นมาจากน้ำได้ จนกระทั่ง ตกเย็นพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มทีแล้ว
ถึงคราต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ปรากฏว่า... ได้มีคนบังเอิญเห็นว่าพระพุทธรูปองค์ที่ลอยน้ำอยู่นั้น ได้มาประดิษฐานปิดขวางทางเข้าประตูวิหารอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ตำนานเรื่องเล่านี้เป็นที่มาของความเชื่อ ศรัทธาที่มีต่อ “หลวงพ่อธรรมจักร” เป็นอย่างมาก
เชื่อไม่ เชื่ออย่างไร... ศรัทธานำมาซึ่งปาฏิหาริย์ โปรดอย่าได้ลบหลู่ ท้าทายทีเดียว
จังหวัดชัยนาทนำสัญลักษณ์ “พระธรรมจักร” มาเป็นสัญลักษณ์และตราประจำจังหวัด ส่วน “น้ำ” จากหน้าวัดธรรมามูลวรวิหารถือเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์” นำไปใช้ในพระราชพิธีถือน้ำ พระพิพัฒน์สัตยา
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จฯมานมัสการหลวงพ่อธรรมจักรพบหลักฐานทางลายลักษณ์อักษรภาพถ่ายและวัตถุพยานยืนยันชัดเจน 2 ครั้ง เสด็จฯครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ร.ศ.120 ดังมีข้อความปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์เสด็จประพาส พระราชหัตถเลขาถึงกรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ ความว่า “เวลาเช้า 3 โมงเศษถึงธรรมามูลขึ้นเขามี
ราษฎรอยู่มาก พระวิหารใหญ่หลังคาพังทลายลงมาทั้งแถบจำต้องปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ทลายลงมาแถบหนึ่ง เห็นของเดิมจะเป็นไม้ 12 ก่อพอให้กลมแถบนั้นยังดีอยู่ ทลายแต่ที่พอกนั้นแถบหนึ่ง พระพุทธรูปเมืองสรรคบุรี...เมื่อนมัสการ และตีตราเสร็จแล้ว แจกเสมาราษฎร แล้วลงเรือเดินทางต่อ...”
วัดธรรมามูลตั้งอยู่บริเวณไหล่เขา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า...“หลวงพ่อธรรมจักร” ประดิษฐานอยู่ในวิหารได้ 3 วันก็กลับหายไปอีกอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็กลับมาประดิษฐานดังเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน
คำบอกกล่าวเล่ากันมา...น่าสนใจว่า บริเวณนั้นยังมีโคลน จอกแหน ติดเปื้อนมาด้วย ชาวบ้านจึงนำโซ่มาผูกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หลวงพ่อหายไปไหนได้อีก ต่อมามีชายต่างถิ่นจากทางเหนือล่องตามลำน้ำเจ้าพระยามาตามหาพระพุทธรูป
พอมาถึงวัดก็เห็น “หลวงพ่อธรรมจักร” พระพุทธรูปที่ตามหา แต่ค่ำแล้วจำต้องค้างคืน ค่ำคืนนั้นเขาฝันว่าหลวงพ่อไม่ขอกลับ แต่จะอยู่ที่นี่ รุ่งเช้าจึงลาเพื่อเดินทางกลับบ้าน ได้ขอถอดเอา “จักร” ที่ฝ่าพระหัตถ์หลวงพ่อกลับไปด้วย
เท็จจริงประการใดไม่มีใครยืนยันได้...นับแต่นั้นเป็นต้นมา “หลวงพ่อธรรมจักร” ก็ไม่ได้หายไปไหนอีกเลย ชาวบ้านจึงนำโซ่ออก... ร่วมใจ หลอมรวมพลังศรัทธาสร้าง “จักร” ขึ้นมาใหม่ พร้อมจัดงานสมโภชต่อเนื่องมาทุกปีไม่เคยขาด ปีละ 2 ครั้ง...วันขึ้น 4-8 ค่ำ เดือน 6 และแรม 4-8 ค่ำ เดือน 11
ใครที่มาเยือน “ชัยนาท” ต้องแวะไปสักการะ...สะท้อนกระแสความศรัทธาอย่างไม่เสื่อมคลาย.